ผื่นคัน แพ้เหงื่อ อย่ามองข้ามสังเกตและดูแล ก่อนเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง
top of page

ผื่นคัน แพ้เหงื่อ อย่ามองข้ามสังเกตและดูแล ก่อนเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง

ผื่นคัน แพ้เหงื่อ อย่ามองข้ามสังเกตและดูแล ก่อนเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง เพราะการที่ลูกน้อยมีผื่นคัน ผื่นแพ้เหงื่ออยู่บ่อยครั้ง ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรังในอนาคตได้


ดังนั้นการสังเกตและดูแลรักษาลูกน้อยเมื่อมีผื่นคันหรือมีอาการของผื่นแพ้เหงื่อจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ก่อนอื่นมาเรียนรู้กันก่อนกว่าผื่นคันแพ้เหงื่อของลูกน้อยนั้น เกิดจากสาเหตุใดและมีวิธีดูแลรักษาได้อย่างไรบ้าง


สาเหตุของการเกิด ผื่นคัน แพ้เหงื่อ


สาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นคืน แพ้เหงื่อในเด็กนั้น เกิดขึ้นได้โดยมีความร้อนเป็นปัจจัยในการกระตุ้น ทำให้ร่างกายของลูกน้อยมีการขับเหงื่อออกมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อการขับเหงื่อถูกกระตุ้น แล้วผิวของลูกน้อยยังระบายได้ไม่ดีเท่าผู้ใหญ่อย่างคุณพ่อคุณแม่ จึงทำให้ต่อมเหงื่ออุดตัน ผิวชื้นเหงื่ออยู่ตลอด จนเกิดเป็นผื่นคัน ผื่นแดง และผื่นแพ้ขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย


นอกจากนี้ การเกิดผื่นแพ้เหงื่ออาจมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมของลูกน้อยด้วย เพราะอาจเกิดกับลูกน้อยที่คนในครอบครัวมีประวัติของโรคภูมิแพ้ ก็อาจต่อทางพันธุกรรมให้ลูกน้อยมีอาการแพ้สิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น แพ้สัมผัส , แพ้อาหาร รวมไปถึงการแพ้เหงื่อของตัวเองด้วยนั่นเอง


อาการของผื่นคัน ผื่นแพ้เหงื่อ


ผื่นแพ้เหงื่อมักเป็นกันได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยโต โดยจะพบมากที่บริเวณคอ , ข้อพับต่าง ๆ , ขาหนีบ และก้น เป็นต้น ซึ่งอาการผื่นแพ้เหงื่อในเด็กเล็กนั้นก็จะมีได้หลากหลายลักษณะที่เห็นชัดเลยก็คือ

มีอาการผื่นแดง ผิวหนังอักเสบผิวอาจมีแห้งคันร่วมด้วย นอกจากนี้ลูกน้อยบางรายที่มีอาการผื่นคันแพ้เหงื่อเริ่มแรก แล้วคุณพ่อคุณแม่ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการดูแลรักษาก็อาจจะทำให้ลูกน้อยมีอาการผิวเปื่อย และอาจจะมีน้ำซึมออกมาจากบริเวณนั้น ๆ ได้อีกด้วย เมื่อปล่อยไว้ หรือให้ลูกน้อยมีปัญหาผื่นแพ้เหงื่อนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ก็อาจจะทำให้ลูกน้อยมีผิวบอบบางลง จนเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรังได้นั่นเอง


วิธีการดูแลรักษาผื่นคันแพ้เหงื่อของลูกน้อย


  • หลีกเลี่ยงอากาศร้อน : อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ผื่นชนิดนี้มักมีความร้อนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดผื่น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องเลี่ยงการพาลูกน้อยไปที่แดดจ้า หรือมีอากาศร้อนจัด หากจำเป็นต้องออกไปแนะนำให้มั่นเช็ดเหงื่อออกจากผิวลูกน้อย เพื่อลดการชื้นเหงื่อบนผิว และเมื่อกลับถึงบ้านให้อาบน้ำล้างคราบเหงื่อไคลให้ลูกน้อย แต่หากไม่จำเป็นต้องไปไหน แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เปิดแอร์ให้เย็นเพียงพอกับผิวลูกน้อย หรือควรอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกจะดีที่สุด

  • สวมเสื้อผ้าโปร่งสบาย : ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่หนาจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ผิวลูกน้อยระบายเหงื่อออกมาได้ไม่ดี จนเกิดเป็นผื่นแพ้เหงื่อ หรือผื่นอับชื้นขึ้นได้

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีส่วนในการขจัดคราบเหงื่อไคลบนผิวลูกน้อย : แนะนำเป็นสูตรนี้เลย BABY GENTLE SOFT FOAM WASH AND SHAPOO | Regagar ซึ่งสูตรนี้คุณสมบัติในการลดการสะสมของคราบเหงื่อได้เป็นที่ 1 ทำให้ลดการอับชื้นเหงื่อผิวได้เป็นอย่างดี และช่วยขจัดครบแบคทีเรียก่อโรคได้อีกด้วย นอกจากนี้หากลูกน้อยมีอาการผื่นแพ้เหงื่อแล้ว ใช้โฟมอาบสระสูตรนี้แล้ว จะทำให้ผื่นอับชื้นดีขึ้น สมานแผลให้ผื่นหายได้เร็วขึ้นอีกด้วย

  • ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนช่วยสมานแผล ลดผื่นอับชื้นให้ลูกน้อยหลังอาบน้ำทุกครั้ง : ขอแนะนำเป็นสูตร BABY EVERYDAY BODY LOTION | Regagar สูตรนี้มีทั้งวิตามิน B และ E ที่จำเป็นต่อผิวลูกน้อย ทำให้ผิวลูกน้อยแข็งแรง และกลับมาเนียนนุ่ม สีผิวสม่ำเสมอกัน พร้อมมีสารสกัดจากธรรมชาติต่าง ๆ มากมายที่ผ่านการทดสอบจากสถาบันแพทย์ผิวหนังชั้นนำแล้วว่าไม่อันตรายต่อผิวเด็ก ช่วยในการลดผื่น ลดการอักเสบ ลดการกลับมาเป็นซ้ำได้นั่นเอง เน้นทาเป็นประจำทุกครั้งหลังอาบน้ำ และทาซ้ำบริเวณที่มีผื่นด้วย เพื่อให้โลชั่นที่คิดค้นโดยแพทย์สูตรนี้เข้าไปบำรุง ฟื้นฟูผิวลูกน้อยให้กลับมาเนียนสวย สุขภาพดีเร็วยิ่งขึ้น


สุดท้าย คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังและตรวจสอบอาการผิวของลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอ ถ้าพบอาการผิวหนังผิดปกติหรือมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน แดง หรืออื่นๆ ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยทันที และเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรังในอนาคต และช่วยให้ลูกน้อยมีผิวสุขภาพดีตลอดไปจนโต

“เพราะเรื่องของลูก ไม่ใช่อะไรก็ได้” ปรึกษาปัญหาผิวลูก หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ คลิก Inbox : http://m.me/regagarth Line : @regagar ( https://bit.ly/3cNxa0D )

bottom of page