ผื่นแพ้ จากแมลงหรือยุงที่มากับฝน สำหรับเด็ก มีอาการอย่างไร ?
- regagar
- Jul 17
- 1 min read
หน้าฝน แม้จะชุ่มฉ่ำและเย็นสบาย แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับสุขภาพผิวของลูกน้อย เพราะเป็นฤดูที่ยุงและแมลงต่างๆ ระบาดหนัก และมักเป็นสาเหตุของ ผื่นแพ้ ที่พบบ่อยในเด็กเล็ก

หลายครอบครัวอาจมองว่า “ แค่ยุงกัด ” เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่รู้ไหมว่า สำหรับเด็กบางคนแล้ว การถูกกัดเพียงไม่กี่จุดอาจนำไปสู่ อาการแพ้รุนแรง หรือผื่นที่ลุกลามจนติดเชื้อได้
ทำความรู้จัก “ ผื่นแพ้ ” จากแมลงและยุง
คำว่า ผื่นแพ้ (Allergic rash) คืออาการที่ผิวหนังเกิดการอักเสบหรือระคายเคืองจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอม เช่น สารพิษในน้ำลายของแมลงที่กัดต่อยเราเข้าไป ยิ่งในช่วงฤดูฝน ยุงและแมลงหลายชนิดจะออกมาชุกชุม โดยเฉพาะ ยุงลาย ยุงรำคาญ มด แมลงหวี่ แมลงดำ แมลงเม่า แมลงคล้ายไรฝุ่นที่มากับอากาศชื้น ซึ่งแมลงเหล่านี้เมื่อกัดผิวลูกน้อย จนอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่ต้องสังเกตอย่างใกล้ชิด
อาการ “ ผื่นแพ้ ” จากแมลงหรือยุงในเด็ก
เด็กเล็กโดยเฉพาะในวัยทารกหรือก่อนวัยอนุบาล มักมีผิวที่บอบบางกว่าผู้ใหญ่ จึงแสดงอาการได้ชัดเจนกว่ามาก โดยอาการของผื่นแพ้จากแมลงและยุงในเด็ก อาจมีได้หลายลักษณะ ดังนี้ :

ตุ่มแดงหรือตุ่มน้ำ : มักขึ้นตามจุดที่ถูกกัด เช่น แขน ขา หน้าผาก ใบหน้า ลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง หรือมีน้ำใสๆ อยู่ภายใน
มีอาการคันรุนแรง : เด็กจะพยายามเกาอยู่บ่อยครั้ง อาจทำให้เกิดแผลถลอก การเกาอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้
ผิวบวม แดง ร้อน : แสดงถึงการอักเสบของผิวหนัง อาจบวมเป็นก้อน หรือลามเป็นวงกว้าง
ผื่นลมพิษเฉียบพลัน : ขึ้นเป็นปื้นแดงหรือวงๆ คล้ายลมพิษ เกิดและหายได้ในระยะเวลาสั้น แต่ถ้ารุนแรงอาจเกิดซ้ำบ่อย
อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) : หากมีอาการหน้าบวม ตาบวม ริมฝีปากบวม หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ตัวเย็น ชีพจรเบา ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลทันที เพราะเป็นอาการแพ้รุนแรง เสี่ยงเกิดอาการช็อก จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเกิด “ผื่นแพ้” จากยุงและแมลง
น้ำลายของแมลงบางชนิด ที่อาจมีสารก่อภูมิแพ้ เมื่อถูกกัด ต่อยก็อาจจะทำให้เกิดผื่นได้
สภาพผิวของเด็ก ที่บอบบางและยังสร้างเกราะป้องกันผิวได้น้อย จึงเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ที่อาจไวต่อสิ่งแปลกปลอบ จึงแพ้ได้ง่าย
การเกาแรงจนผิวเปิด ทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อน ผิวอักเสบได้มากขึ้น
อากาศร้อนชื้น ทำให้เหงื่อออกมาก เป็นตัวล่อแมลงและกระตุ้นการระคายเคืองได้มากยิ่งขึ้น

วิธีดูแลเมื่อลูกน้อยเกิดผื่นแพ้จากแมลง
ทำความสะอาดผิว ด้วยการใช้น้ำสะอาด หรือน้ำเกลือเช็ดบริเวณที่เป็นผื่น ควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่แรงๆ
ทาครีมลดผื่น บรรเทาอาการคัน ลดการอักเสบ หรือประคบเย็น เพื่อลดอาการบวมและคัน
ห้ามให้ลูกเกา เพราะจะทำให้ติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลถาวร ควรตัดเล็บให้สั้น หรือสวมถุงมือให้ลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กเล็ก เพื่อลดโอกาสเกาผิวจนถลอก
หากผื่นลุกลาม มีอาการบวมแดงมากขึ้น มีไข้ หรือเป็นหนอง หรือน้ำเหลืองซึม มีอาการหายใจลำบาก ควรพบแพทย์ทันที
วิธีป้องกันผื่นแพ้จากยุงและแมลงในช่วงหน้าฝน
เพื่อให้ผิวลูกน้อยปลอดภัยจากผื่นแพ้ที่มากับแมลงในฤดูฝน คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ :

สวมเสื้อผ้าแขนยาวขายาวเมื่อออกนอกบ้าน
ใช้โลชั่นหรือสเปรย์กันยุงสำหรับเด็กที่ปลอดภัย
นอนในมุ้ง หรือใช้มุ้งครอบเด็กอ่อน
กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น น้ำขังตามกระถาง หรือภาชนะ
รักษาความสะอาดบริเวณบ้าน ปิดหน้าต่างเมื่อฝนตกหรือเย็นชื้น
ใช้ครีมบำรุงผิวเด็กเป็นประจำ เพื่อให้ชั้นผิวแข็งแรง ลดการระคายเคืองง่าย
เลือกสบู่อ่อนโยนต่อผิวเด็ก ปราศจากน้ำหอม
เช็ดเหงื่อออกทันทีหลังเล่นหรือวิ่งเล่น ลดการชื้นเหงื่อบนผิว เพราะเหงื่ออาจทำให้เกิดผื่นแพ้เหงื่อ ผิวระคายเคืองตามมาได้
ผื่นแพ้จากแมลงและยุงในหน้าฝนเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีผิวบอบบางและระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ การระวังและป้องกันอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันปัญหาผิวในระยะยาวได้นั่นเอง
“เพราะเรื่องของลูก ไม่ใช่อะไรก็ได้”
ปรึกษาปัญหาผิวลูก หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
คลิก Inbox : http://m.me/regagarth
Line : @regagar ( https://lin.ee/LLGNbL8 )
Comments