top of page

แพ้ยุง ในเด็ก อาการแบบไหน ถึงต้องกังวล พร้อมวิธีป้องกัน และการดูแลอย่างถูกต้อง

“ แพ้ยุง ” เป็นอาการที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือในพื้นที่ที่มียุงชุกชุม เด็กบางคนอาจมีปฏิกิริยารุนแรงกว่าคนทั่วไปเมื่อถูกยุงกัด ทำให้พ่อแม่หลายคนกังวลว่าลูกน้อยจะแพ้ยุงหรือไม่ และควรดูแลอย่างไรให้ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน


ในบทความนี้ เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจเรื่อง “แพ้ยุง” ตั้งแต่สาเหตุ อาการ ไปจนถึงวิธีการดูแลและป้องกันไม่ให้ลูกน้อยโดนยุงกัดอีก


ลูก แพ้ยุง


แพ้ยุง คือ

อาการแพ้ยุง คือปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายของเด็กตอบสนองต่อโปรตีนในน้ำลายของยุง ซึ่งถูกปล่อยเข้าผิวหนังในขณะยุงกัด น้ำลายยุงมีสารที่ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ทำให้บางคน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ที่ผิวยังบอบบางและระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์เท่าผู้ใหญ่ มีปฏิกิริยาไวหรือรุนแรงกว่าปกติ เช่น บวมแดง คันมาก หรือเป็นผื่นลุกลาม

อาการแพ้ยุงมักเกิดขึ้นไม่กี่นาทีหลังโดนกัด และอาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากเด็กมีการเกา หรืออาจทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้


ลักษณะอาการของการแพ้ยุง

อาการแพ้ยุงในเด็กมีความหลากหลาย แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยแบ่งออกเป็นอาการเบื้องต้นและอาการรุนแรง ดังนี้


อาการแพ้ยุง

อาการทั่วไป :

  • ตุ่มแดง นูน ขนาดประมาณ 3–10 มิลลิเมตร

  • คันมากบริเวณที่ถูกกัด โดยเฉพาะในช่วง 2–3 ชั่วโมงแรกหลังโดนกัด

  • ผิวบริเวณนั้นอาจรู้สึกร้อน บวมเล็กน้อย มีรอยแดงล้อมรอบตุ่ม

  • เด็กมักเกาจนผิวถลอก อาจงอแงเพราะความคันหรือระคายเคือง

อาการแพ้ยุงรุนแรง :

  • ตุ่มบวมแดงลามกว้างกว่าปกติ ( มากกว่า 2–3 เซนติเมตร ) บางรายบวมจนปิดตาหรือมือเท้าบวม

  • ผิวบริเวณที่ถูกกัดร้อน แดง ผิวหนังแข็ง กดเจ็บ อักเสบ

  • มีตุ่มน้ำใส หรือกลายเป็นตุ่มหนอง

  • เกาจนเกิดแผล และอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย

  • อาจมีไข้ หรืออาการอ่อนเพลียร่วมด้วยในบางราย

  • ในบางรายที่แพ้มาก อาจมีอาการคล้ายโรคลมพิษ


หากลูกมีอาการบวมมากผิดปกติ มีไข้ หรือแผลไม่ยุบ ควรพาไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เซลลูไลติส (cellulitis) หรือการติดเชื้อใต้ผิวหนัง


สาเหตุที่ทำให้เด็ก “ แพ้ยุง ” มากกว่าผู้ใหญ่

  • ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ไวต่อโปรตีนในน้ำลายยุง

  • ผิวเด็กบอบบางและบางกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เกิดการระคายเคืองง่าย

  • เกาจนแผลเปิด ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่แผล เกิดอาการบวม ติดเชื้อได้ง่าย

  • ปัจจัยทางพันธุกรรม เด็กที่มีแนวโน้มภูมิแพ้ มักมีอาการแพ้ยุงรุนแรงกว่าคนทั่วไป


วิธีดูแลลูกน้อยเมื่อมีอาการแพ้ยุง

เมื่อสังเกตว่าลูกมีอาการแพ้ยุง การดูแลที่ถูกต้องจะช่วยลดอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลเบื้องต้นได้ดังนี้ :

แพ้ยุง วิธีดูแล

  1. ล้างทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัด ด้วยสบู่อ่อนและน้ำสะอาดทันที หากเลือกใช้เป็นสบู่หรือโฟมอาบน้ำที่มีคุณสมบัติในการลดการสะสมแบคทีเรียบนผิวได้ด้วยจะยิ่งดี เพราะจะทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพต่อผิวลูกน้อยมากยิ่งขึ้น

  2. ประคบเย็น เพื่อลดอาการบวมและบรรเทาคัน

  3. ทายาแก้คัน เช่น คาลาไมน์โลชั่น หรือเลือกใช้โลชั่นที่มีสารสกัดที่ช่วยบรรเทาอาการคัน ลดการอักเสบของผิวหนังได้

  4. ห้ามให้ลูกน้อยเกาเด็ดขาด พยายามเบี่ยงเบนความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนอน อาจใช้ผ้าปิดแผล หรือใส่ถุงมือเด็ก เพื่อป้องกันการเกา จนทำให้เกิดแผลที่จะเสี่ยงติดเชื้อตามมา

  5. ให้ลูกตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ ลดโอกาสเกิดแผลเมื่อเกา

  6. สังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น บวมแดงลาม ไข้ หรือแผลไม่ดีขึ้นใน 2–3 วัน หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ เพราะอาจติดเชื้อได้



แพ้ยุง หาหมอ

อาการแพ้ยุงของลูกน้อย เมื่อไรควรพาไปพบแพทย์

  •  ตุ่มบวมแดงมากกว่า 5 เซนติเมตร

  • ลูกน้อยมีไข้ ปวดบริเวณตุ่ม หรือบวมร้อนแดง

  • แผลลุกลาม หรือมีหนองไหลออกมา

  • มีประวัติแพ้แมลงรุนแรง เช่น หายใจลำบาก หายใจติดขัด



วิธีป้องกันไม่ให้ลูกน้อยถูกยุงกัด

การป้องกันไม่ให้ยุงกัดถือเป็นหัวใจสำคัญในการลดโอกาสเกิดอาการแพ้ยุง :

ป้องกันยุง
  • ใส่เสื้อผ้าปิดมิดชิด โดยเฉพาะตอนเย็นหรือเวลาออกนอกบ้าน

  • ใช้มุ้งคลุมเตียง หรือมุ้งคลุมรถเข็น

  • ใช้โลชั่นกันยุงที่เหมาะกับเด็ก (ควรเลือกที่ปราศจาก DEET หรือเลือกสูตรธรรมชาติ)

  • หลีกเลี่ยงพาลูกน้อยไปในบริเวณที่มียุงชุม เช่น แหล่งน้ำขัง พุ่มไม้

  • ตรวจสอบรอบบ้าน กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น กระถางต้นไม้จานรอง น้ำขังในถังน้ำ

  • ทำบ้านให้โปร่ง ไม่อับชื้น



“ แพ้ยุง ” อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเด็กเล็กแล้ว หากละเลยหรือดูแลไม่ถูกวิธี อาการอาจรุนแรงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ดังนั้นการสังเกตอาการ และดูแลอย่างเหมาะสม รวมถึงการป้องกันไม่ให้ยุงกัดตั้งแต่แรก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกน้อยมีอาการแพ้ยุงบ่อยๆ หรืออาการรุนแรงผิดปกติ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสมกับลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่นะคะ

“เพราะเรื่องของลูก ไม่ใช่อะไรก็ได้” ปรึกษาปัญหาผิวลูก หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ คลิก Inbox : http://m.me/regagarth Line : @regagar ( https://lin.ee/LLGNbL8 


Comments


bottom of page