ผดร้อน ปัญหาผิวเด็กในหน้าร้อน มีอาการและวิธีรักษาอย่างไร
top of page

ผดร้อน ปัญหาผิวเด็กในหน้าร้อน มีอาการและวิธีรักษาอย่างไร

ผดร้อน ปัญหาผิวเด็กในหน้าร้อน มีอาการและวิธีรักษาอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ แต่ก่อนอื่นๆ ต้องถามก่อนว่าในช่วงหน้าร้อน อากาศที่ร้อนอบอ้าวมากในช่วงนี้ คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตผิวลูกน้อยในช่วงนี้บ้างหรือไม่ว่า ผิวของลูกน้อยมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นมาตามใบหน้าและลำตัวบ้างหรือเปล่า

ผดร้อน ปัญหาผิวเด็กในหน้าร้อน

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตแล้วว่าผิวของลูกน้อยอยู่ ๆ มีตุ่มเล็ก ๆ เป็นตุ่มใสขึ้นทั้งหน้าและตัว นั่นอาจจะหมายความว่าลูกน้อยของเรากำลังเผชิญกับปัญหาผดร้อนอยู่ก็ได้ ซึ่งสามารถเป็นกันได้ตั้งแต่อายุ 2 สัปดาห์ขึ้นไป แม้ว่าผดผื่นเหล่านี้จะหายได้เอง แต่ก็อาจจะทำให้กลับมาเป็นซ้ำได้อีก และหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ก็อาจจะทำให้ลูกน้อยงอแง มีอาการคัน จนทำให้ผดผื่นอักเสบมากกว่าเดิมอีกด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับผดร้อน ปัญหาผิวเด็กในหน้าร้อน และมาดูกันว่าจะมีวิธีดูแลรักษาอย่างไรให้หายขาดกันได้บ้าง


ลักษณะของ ผดร้อน ปัญหาผิวเด็กในหน้าร้อน


ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ลองมาสังเกตอาการของผดผื่นที่ขึ้นตามผิวหนังของลูกน้อยกันก่อนเลยว่า มีลักษณะเป็นอย่างไร โดยลักษณะของผดร้อนที่ลูกน้อยจะได้เจอในหน้าร้อนจะมีหลายรูปแบบดังนี้


ผดร้อน prickly heat

  • ลักษณะเป็นผดตุ่มใส ไม่มีอาการแสบหรือคันร่วมด้วย แต่มีโอกาสที่ตุ่มใสจะแตกและอาจจะกลายเป็นสะเก็ดแผลได้

  • ลักษณะเป็นผดแดง ถ้ามีลักษณะนี้ ลูกน้อยจะเริ่มมีอาการคัน แสบ และระคายเคืองผิวด้วย อาจจะทำให้เขางอแง นอนลับไม่สนิท ร้องไห้บ่อยครั้งได้

  • ลักษณะเป็นผดหัวหนอง เริ่มมีหัวขุ่น ๆ ซึ่งเกิดจากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เร่งดูแลรักษาให้ลูกน้อยในขณะที่เป็นในตอนแรก ทำให้ผิวลูกน้อยอักเสบ ติดเชื้อ เป็นผดหัวหนองนั่นเอง

โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะพบบริเวณที่ต่อมเหงื่อทำงานหนัก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าผาก หน้าอก บริเวณหลัง ตามคอพับต่าง ๆ และบริเวณคอ หากลูกน้อยมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้แสดงว่าลูกน้อยเป็นผดร้อนแน่นอน จะต้องทำการดูแลรักษาต่อไป เพื่อให้ผิวลูกน้อยกลับมาเรียบเนียน แข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง


วิธีรักษาผดร้อน ที่ลูกน้อยต้องเจอในหน้าร้อน

อาการผดร้อนในเด็กมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีอากาศร้อนมาก ๆ จะยิ่งทำให้ผดผื่นของลูกน้อยเห่อมากขึ้นได้ วิธีดูแลรักษาอาการผดร้อนของลูกน้อยมีดังนี้

ผดร้อน prickly heat

- เปิดแอร์ให้เย็นเพียงพอ พยายามหลีกเลี่ยงอากาศร้อน เน้นให้อยู่ในห้องแอร์ หรือห้องที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนจนเกินไป คุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะบอกว่าก็ให้ลูกน้อยอยู่ห้องแอร์ตลอด แต่ทำไมลูกน้อยยังมีผดร้อนเกิดขึ้นได้อีก นั่นเป็นเพราะว่าชั้นผิวของลูกน้อยยังบอบบาง และต่อมเหงื่อของเขายังทำงานได้ไม่ดีพอ จนทำให้ท่อต่อมเหงื่ออุดตันได้ แม้ว่าคุณแม่จะเปิดแอร์ในองศาที่คิดว่าเย็นพอแล้ว แต่อาจจะไม่เพียงพอกับลูกน้อยก็ได้ - ใส่เสื้อสบาย ๆ ไม่หนาจนเกินไป ไม่จำเป็นต้องใส่แขนยาวขายาวตลอดเวลา เพราะอาจจะทำให้ผิวลูกน้อยชื้นเหงื่อ เกิดผดผื่นตามมาได้อีก

ครีม โลชั่น ลดผดร้อน

- อาบน้ำให้ลูกน้อยด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ทั่วไป ควร เลือกเป็นผลิตภัณฑ์อาบน้ำสูตรอ่อนโยนต่อผิวเด็กดีที่สุด หากสามารถช่วยลดการอับชื้นเหงื่อ ลดผดร้อนได้ และต้องเลือกเป็นสูตรที่มี pH5.5 อ่อนโยนสูงสุด ไม่ระคายเคืองผิวลูกน้อยจะดีมาก

- ทาโลชั่นบำรุงและฟื้นฟูผิวลูกน้อยจากผดร้อน แนะนำว่าให้ทาเป็นประจำทุกวัน และทาซ้ำบริเวณที่เป็นมีผดร้อนเป็นจำนวนมาก ๆ ในระหว่างวันด้วยจะยิ่งดี โดยเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน Anti - inflammation , Anti - irritation ที่ช่วยในการลดผดผื่น ลดผดร้อน บรรเทาอาการคัน การแพ้ การอักเสบ และการระคายเคืองได้เป็นอย่างดี หากมีเซรามายด์และกรดอะมิโนจำเป็นต่อผิวเด็กด้วย ก็จะยิ่งเสริมชั้นผิวของลูกน้อยให้แข็งแรงมากขึ้น ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ไม่เกิดผดผื่นหรือผดร้อนซ้ำอีกด้วยนั่นเอง

ในระหว่างวันคุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นสังเกตผิวลูกน้อยให้ดี หากพบว่าผิวเริ่มมีเหงื่อชื้น ๆ สัมผัสดูแล้วรู้สึกได้ถึงการเปียกชื้น แนะนำให้เช็ดตัว หรืออาบน้ำใหม่ลูกน้อย เพื่อลดการชื้นเหงื่อ จนเกิดเป็นผดร้อนด้วย


อีกหนึ่งอย่างที่ต้องเตือนกันอยู่เสมอคือ ห้ามใช้แป้งเด็ดขาด!! คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ บ้านเข้าใจผิดว่า ลูกร้อน มีผื่นก็ทาแป้งไป ไม่ว่าจะเป็นแป้งเด็ก หรือแป้งอะไรก็ตาม ไม่ควรเป็นอันขาดเลย เพราะจะยิ่งทำให้ต่อมเหงื่อของลูกน้อยอุดตันมากขึ้น หากทำตามที่ได้แนะนำมาข้างต้นนี้ รับรองว่าผดร้อนของลูกน้อยหายขาด ผิวแข็งแรง ไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกแน่นอน


bottom of page