มือเท้าปาก กับผื่นคันธรรมดา ต่างกันอย่างไร ? ดูให้รู้ เช็คให้ชัวร์ !!
- regagar
- Aug 7
- 2 min read
ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง หรือในช่วงฤดูฝน พ่อแม่หลายคนอาจต้องปวดหัวกับผื่นหรือแผลที่ขึ้นตามตัวของลูก โดยเฉพาะเมื่อพบว่ามีตุ่มน้ำใสขึ้นที่มือ เท้า หรือแม้กระทั่งในปาก หลายคนอาจคิดว่าเป็นแค่ผื่นธรรมดา แต่บางครั้งมันอาจไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะสิ่งที่ลูกเป็นอาจคือ “ โรค มือเท้าปาก ” ซึ่งมีความรุนแรงและติดต่อได้ง่ายกว่าผื่นคันทั่วไป

บทความนี้จะพาทุกคนมาแยกความแตกต่างระหว่าง “ โรคมือเท้าปาก ” กับ “ ผื่นคันธรรมดา ” ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร สังเกตอาการแบบไหนถึงควรรีบพาลูกไปหาหมอ พร้อมแนะนำวิธีดูแลลูกเมื่อติดโรค และการป้องกันไม่ให้โรคนี้กลับมาอีกครั้ง
มือเท้าปาก คือ
โรคมือเท้าปาก (Hand, Foot and Mouth Disease) คือ โรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enterovirus โดยเชื้อที่พบบ่อยที่สุดคือ Coxsackievirus A16 และ Enterovirus 71 (EV71) มักเกิดในเด็กอายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 5 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในเด็กโตและผู้ใหญ่
โรคมือ เท้า ปาก สามารถติดต่อกันได้ โดยการแพร่กระจ่ายผ่านสิ่งเหล่านี้ :
น้ำลาย น้ำมูก และเสมหะ จากการไอหรือจาม
ของใช้ร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ช้อน ของเล่น
อุจจาระ จากการเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้วล้างมือไม่สะอาด
ตุ่มน้ำจากผิวหนัง ที่แตกออก
เชื้อสามารถอยู่ในร่างกายของผู้ป่วยได้นาน แม้หายแล้ว ก็ยังมีเชื้อปนอยู่ในอุจจาระได้อีกหลายสัปดาห์ ดังนั้นหากมีเด็กป่วยในโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยง ควรแยกออกจากคนอื่นๆ เพราะเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย

ลักษณะอาการของโรคนี้คือ
ไข้ : อาจมีไข้ขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ก่อนผื่นจะปรากฏ 1-2 วัน
แผลในปาก : มักอยู่ที่กระพุ้งแก้ม ลิ้น เพดานปาก ทำให้เจ็บเวลากิน เจ็บจนเด็กไม่ยอมกินข้าว หรืองอแงเวลาทาน
ผื่นหรือตุ่มน้ำใส: พบบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รอบก้น หรือหัวเข่า ไม่คัน แต่นูนแดง เจ็บเวลาโดน
น้ำลายไหล : เด็กอาจน้ำลายไหลมากเพราะเจ็บแผลในปาก
เบื่ออาหาร และอ่อนเพลียร่วมด้วย
บางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น แขนขาอ่อนแรง ซึม ชัก หรือระบบประสาทอักเสบ ซึ่งต้องรีบรักษาโดยด่วน
ภาวะแทรกซ้อนของโรคมือเท้าปาก
แม้ว่าโดยทั่วไปโรคมือเท้าปากจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรง เช่น Enterovirus 71 (EV71) อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น:
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
อัมพาตเฉียบพลัน
เสียชีวิต (หากรักษาไม่ทัน)
ดังนั้นการเฝ้าระวังอาการและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงทีจึงสำคัญมาก

อาการบ่งชี้เมื่อลูกเป็นมือเท้าปากและควรพาลูกไปหาหมอ
หากลูกมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที :
ไข้สูงเกิน 2 วัน
ดื่มน้ำน้อยหรือไม่กินอาหารเลย
ซึม งอแงผิดปกติ อ่อนแรง หรือชัก
อาเจียนบ่อย
ผื่นลามไวผิดปกติ หรือกลายเป็นตุ่มหนอง
หายใจหอบ หายใจเร็ว
วิธีดูแลลูกน้อยและการรักษาเมื่อเป็นโรค มือเท้าปาก
ยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง การรักษาจะเป็นแบบประคับประคอง ได้แก่
ลดไข้ ด้วยยาพาราเซตามอล
บ้วนปากหรือทาเจลลดเจ็บปาก
ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
พักผ่อนให้เพียงพอ
งดอาหารเผ็ด เค็ม กรอบ ที่อาจระคายแผลในปาก

แยกเด็กป่วยออกจากเด็กอื่นๆ อย่างน้อย 7-10 วัน
ทำความสะอาดของเล่น พื้นผิว ของใช้ส่วนตัวเป็นประจำ
หมั่นล้างมือด้วยสบู่ โดยเฉพาะก่อน-หลังเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือให้อาหาร
ใช้ภาชนะเฉพาะตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อน
ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงน้ำเย็นจัดหรือน้ำร้อน
ดูแลให้ลูกนอนพัก งดกิจกรรมหนัก
ปัจจุบันในประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันมือเท้าปาก คือ Enterovirus Type 71 Vaccine หรือ EntroVac เป็นวัคซีนเชื้อตาย แนะนำสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี 11 เดือน ซึ่งต้องได้รับทั้งหมด 2 เข็ม โดยฉีดห่างกัน 1 เดือน แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยที่ถึงวัยฉีดวัคซีนป้องกันไว้ เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายร้ายแรง
แล้วผื่นคันธรรมดาในเด็ก คืออะไร
ผื่นคันในเด็กเป็นอาการที่พบได้บ่อยและเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

ผดร้อน (Heat rash) : เกิดจากเหงื่ออุดตันในรูขุมขน ผื่นจะเป็นตุ่มแดงเล็กๆ คัน
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) : ผิวแห้ง คัน มีสะเก็ด
ผื่นผ้าอ้อม : ผิวบริเวณก้นแดง เป็นแผลจากการระคายเคือง
แพ้อาหาร หรือสารเคมี : มีผื่นลมพิษหรือผื่นแดงทันทีหลังสัมผัสหรือกินอาหารบางชนิด
แมลงกัดต่อย : ผื่นแดง คัน หรือเป็นตุ่มนูนบริเวณที่ถูกกัด
อาการที่สังเกตได้คือ ไม่มีไข้ อาจเป็นผื่นแดง ผื่นนูน ผื่นแห้ง หรือมีสะเก็ด และมักมีอาการคันร่วมด้วย พบบริเวณต่างๆ ทั่วตัว เช่น หลัง แขน ขา ลำตัว ก้น และส่วนใหญ่ไม่ติดต่อกัน ซึ่งวิธีการรักษาแต่ละผื่นนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของผื่นนั้นๆ
ตารางเปรียบเทียบ มือเท้าปาก VS ผื่นคันทั่วไป

อาการผื่นหรือแผลในเด็กเล็กแม้จะดูไม่อันตราย แต่หากมีไข้ร่วมด้วย หรือมีแผลในปาก อย่าชะล่าใจเด็ดขาด โรคมือเท้าปากอาจรุนแรงได้ถ้าไม่ดูแลอย่างถูกวิธี และยังสามารถแพร่เชื้อให้เด็กคนอื่นได้อีกด้วย การแยกผู้ป่วย พาลูกหาหมอ และใส่ใจความสะอาด เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ลูกน้อยหายไว และป้องกันการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เพราะเรื่องของลูก ไม่ใช่อะไรก็ได้”
ปรึกษาปัญหาผิวลูก หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
คลิก Inbox : http://m.me/regagarth
Line : @regagar ( https://lin.ee/LLGNbL8
Comments