5 โรคในเด็ก ที่พบบ่อย ช่วงหน้าหนาว
- regagar

- 14 minutes ago
- 2 min read
เมื่ออากาศเริ่มเย็นลง หลายบ้านอาจรู้สึกสดชื่น สบายตัวขึ้น แต่สำหรับ “ เด็กเล็ก ” โดยเฉพาะในวัยทารก หรือวัยอนุบาล ฤดูหนาวกลับเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ อากาศเย็นและแห้งจึงอาจเปิดโอกาสให้เชื้อโรคต่างๆ เข้ามาทำร้ายสุขภาพลูกน้อยได้ง่ายมาก

วันนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มารู้จักกับ 5 โรคในเด็ก ที่พบบ่อยช่วงหน้าหนาว พร้อมแนวทางการดูแลและป้องกัน เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยและสุขภาพดีตลอดฤดูนี้
5 โรคในเด็ก ที่พบบ่อย ช่วงหน้าหนาว

1. โรคไข้หวัด (Common Cold) : เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสได้หลากหลายชนิด ซึ่งอากาศที่แห้งและมีเชื้อไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศ จึงสามารถแพร่กระจายได้ง่ายมาก เด็กจึงมีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้สูง
อาการของโรคหวัดในเด็ก :
น้ำมูกไหล คัดจมูก
ไอ หรือจามบ่อย
มีไข้ต่ำๆ หรือไม่มีไข้
บางรายอาจปวดศีรษะหรือเบื่ออาหาร
มักมีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากลูกน้อยเริ่มมีไข้สูงหรือหอบเหนื่อย ควรรีบพบแพทย์ทันที
วิธีดูแลเมื่อเป็นไข้หวัด :
ให้ลูกดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ
ใช้น้ำเกลือล้างจมูก เพื่อดันเอาน้ำมูกที่ค้างอยู่ออกมา ช่วยให้ลูกน้อยหายใจโล่งยิ่งขึ้น
ควรให้ลูกน้อยพักผ่อนให้เพียงพอ
ห้ามใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเสี่ยงเกิดการแพ้อื่นๆ ได้
วิธีการป้องกันลูกน้อยไม่ให้เกิดไข้หวัด :
ฝึกให้ลูกน้อยล้างมือบ่อยๆ เพื่อชะล้างแบคทีเรียที่อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้
หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ผู้ป่วย
ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือเสริมวิตามินซี

2. โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) : ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส Influenza มีความรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา และสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หรือหูอักเสบได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งโรคนี้สามารถติดต่อกันได้ผ่านละอองฝอยน้ำมูก น้ำลาย หรือการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสนี้ปนเปื้อน แล้วไปสัมผัสจมูกหรือปากของตัวเอง ก็ทำให้ติดต่อกันได้
อาการของไข้หวัดใหญ่ในเด็ก :
ไข้สูงเฉียบพลัน (เกิน 38.5°C)
ปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ
ไอแห้ง เจ็บคอ เบื่ออาหาร
อาจมีอาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย
อาการเหล่านี้มักเป็นนานกว่าไข้หวัดธรรม โดยอาจเป็นนาน 6 -10 วันเลยทีเดียว
การรักษาและดูแลเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ :
แพทย์อาจให้ยาต้านไวรัส Oseltamivir ภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรค
เช็คตัวเพื่อลดไข้
ให้พักผ่อนให้เพียงพอ
คำเตือน : ไม่ควรใช้ยาแอสไพรินโดยเฉพาะในเด็ก เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้
วิธีการป้องกันลูกน้อยไม่ให้เกิดไข้หวัดใหญ่ :
พาลูกน้อยตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง
หลีกเลี่ยงที่แออัดช่วงระบาด
ล้างมือบ่อยๆ และสอนลูกปิดปากเวลาไอ

3. โรคปอดบวม (Pneumonia) : ปอดบวมเป็นโรคที่อันตรายที่สุดในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะอาจทำให้หายใจลำบากและเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษา มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่เข้าสู่ปอด เช่น หลังเป็นไข้หวัดหรือหลอดลมอักเสบ โดยติดต่อผ่านทางการหายใจเอาละอองฝอยของผู้ป่วยไอ หรือจาม หรือจากการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป
อาการของปวดบวม :
มีไข้สูงไม่ลด หนาวสั่น
ไอ และอาจมีเสมหะ
หายใจเร็ว หอบ หายใจลำบาก หรือมีเสียงครืดคราด
หายใจแรงจนหน้าอกบุ๋ม
อ่อนเพลีย ซึม
ไม่ยอมกินนม เบื่ออาหาร
ริมฝีปากเขียวคล้ำ เริ่มรุนแรง เพราะแสดงถึงภาวะการณ์ขาดออกซิเจน
วิธีการดูแลและป้องกันโรคปอดบวม :
รีบพบแพทย์ทันที หากสงสัยว่าปอดบวม
พาลูกไปรับวัคซีน PCV (ป้องกันปอดอักเสบ) และไข้หวัดใหญ่ ช่วยลดความเสี่ยงได้

4. โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) : หลอดลมอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักจะเกิดตามหลังอาการของไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ ทำให้เยื่อบุหลอดลมบวมและมีเสมหะ ลูกน้อยจะไอมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน
อาการของโรคหลอดลมอักเสบ :
ไอแห้งๆ เรื้อรัง
มีเสมหะ
หายใจลำบาก มักมีเสียงหวีด
บางรายอาจมีไข้ต่ำๆ เจ็บคอ เสียงแหบ
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือไม่สบายตัว
อาจมีอาการอาเจียน หรือไม่ยอมกินอาหาร
วิธีดูแลเมื่อลูกน้อยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ :
ให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยละลายเสมหะ ลดความเหนียวของเสมหะ
ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในห้อง (humidifier)
หลีกเลี่ยงอากาศเย็นจัด ฝุ่น หรือควันบุหรี่
หากหอบหรือเหนื่อย อาการไม่ดีขึ้น เริ่มหายใจมีเสียงหวีด ไข้สูง ควรพบแพทย์ทันที

5. ผิวแห้งและผื่นผิวหนัง (Dry Skin / Rashes) : อากาศเย็นและแห้งทำให้ผิวสูญเสียน้ำ เด็กโดยเฉพาะทารก ยังมีผิวบอบบางมากกว่าผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก จึงเกิดการระคายเคืองง่าย มักเป็นบริเวณแขน ขา ลำตัว
อาการของผิวแห้ง ผื่นผิวหนังที่พบบ่อย :
ผิวแห้ง ลอก
แก้มแดงเป็นขุย
มีผื่นแดง
อาจมีอาการคันร่วมด้วย
ในบางรายอาจกลายเป็น “ ผื่นผิวหนังอักเสบ ”
การดูแลผิวลูกน้อยเมื่อมีปัญหาผิวแห้ง :
อาบน้ำอุ่นพอประมาณ ไม่ควรอาบน้ำเกิน 10 นาที
ใช้สบู่ที่อ่อนโยน สูตรสำหรับเด็ก เลือกที่มี pH5.5 อ่อนโยน ใกล้เคียงผิวเด็กที่สุด
ทาครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวทุกครั้งหลังอาบน้ำทันที ควรทาขณะผิวหมาด ภายใน 3 นาทีหลังอาบน้ำ เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนเปิด พร้อมรับการบำรุงผิวลึกถึงชั้นผิวอย่างเต็มที่
ใส่เสื้อผ้านุ่ม ระบายอากาศได้ดี
FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ 5 โรคในเด็ก ช่วงหน้าหนาว
Q : เด็กเป็นหวัดบ่อยทุกหน้าหนาว ถือว่าผิดปกติไหม?
A : โดยทั่วไป เด็กวัยอนุบาลอาจเป็นหวัดได้ 6–8 ครั้งต่อปี ถือว่า “ ปกติ ” เพราะภูมิคุ้มกันยังสร้างไม่เต็มที่ แต่ถ้าเป็นบ่อยเกินไปหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ควรปรึกษาแพทย์ทันที
Q : วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นไหม?
A : จำเป็นมาก โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ หรือหัวใจ ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละครั้งเพื่อป้องกันอาการรุนแรง
Q : หน้าหนาวควรอาบน้ำให้ลูกทุกวันไหม?
A : ควรอาบน้ำทุกวัน แต่ใช้เวลาไม่นาน และควรใช้น้ำอุ่นพอดี ไม่ร้อนเกินไป หรืออาบน้ำอุณภูมิปกติได้ยิ่งดี เพื่อป้องกันผิวแห้ง หลังอาบน้ำให้ทาครีมบำรุงผิวทันที
Q : ถ้าลูกไม่อยากใส่เสื้อกันหนาวจะทำอย่างไรดี ?
A : เลือกเสื้อผ้าที่เนื้อนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอน อาจเลือกแบบมีลายการ์ตูนหรือลูกเล่นน่ารัก เพื่อให้เด็กอยากใส่มากขึ้น
Q : ดื่มน้ำอุ่นช่วยป้องกันโรคในหน้าหนาวได้ไหม ?
A : น้ำอุ่นช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น และช่วยให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้น ลดการระคายคอและไอได้ดี จึงควรให้ลูกดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ในช่วงหน้าหนาว แต่อาจจะไม่ได้ป้องกันโรคในหน้าหนาวได้ 100 เปอร์เซ็นต์นะคะ
ฤดูหนาวอาจเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับครอบครัว แต่ก็เป็นฤดูกาลที่โรคในเด็กระบาดได้ง่ายมาก โดยเฉพาะโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หลอดลมอักเสบ และผิวแห้งหรือผื่นผิวหนัง การรู้เท่าทันอาการเริ่มต้นของแต่ละโรค รวมถึงการดูแลและป้องกันอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือได้ทันเวลา
อย่าลืมว่า “ การป้องกันดีกว่าการรักษา ” เพียงคุณพ่อคุณแม่ใส่ใจดูแลสุขภาพลูกน้อยในทุกวัน ให้ร่างกายอบอุ่น กินอาหารดี มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ก็สามารถผ่านฤดูหนาวไปได้อย่างปลอดภัยและอบอุ่นใจทั้งครอบครัว เพราะ “สุขภาพดีของลูก” คือของขวัญที่มีค่าที่สุดในฤดูหนาวนี้
“เพราะเรื่องของลูก ไม่ใช่อะไรก็ได้”
ปรึกษาปัญหาผิวลูก หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
คลิก Inbox : http://m.me/regagarth
Line : @regagar ( https://lin.ee/LLGNbL8 )



Comments