แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย อันตรายหรือไม่ ควรทำอย่างไร
top of page

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย อันตรายหรือไม่ ควรทำอย่างไร

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย อันตรายหรือไม่ มีผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์หรือเปล่า วันนี้เรามาหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย

คุณแม่มือใหม่ หรือคุณแม่ที่กำลังเริ่มมีอาการแพ้ท้อง อยากกินนู้นอยากกินนี่แปลก จนเกิดอาการท้องเสีย หรือมีอาการถ่ายผิดปกติ อาจจะต้องคอยสังเกตการขับถ่ายของคุณแม่เอง ว่ามีอาการถ่ายบ่อย ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นมูก มีเลือดปนหรือไม่ด้วย แล้วอาการเหล่านี้จะอันตรายมากน้อยแค่ไหน และมีผลต่อลูกน้อยในครรภ์หรือไม่ คุณแม่จะต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่านแล้วค่ะ


แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย เกิดจาก

อาการท้องเสียของคุณแม่ตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่ต่างกันไปในแต่ละคน อาจจะเกิดจากสาเหตุ

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย

  • ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป ในช่วงตั้งครรภ์อย่างที่ทราบกันดีว่าฮอร์โมนของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ส่งผลต่อกระบวนการทำงานในร่างกาย อารมณ์ จิตใจค่อนข้างมาก ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ระบบการย่อยอาหารของคุณแม่ตั้งครรภ์ ทำงานช้าจนท้องผูก หรือทำงานเร็วเกินไปจนท้องเสีย

  • ระบบย่อยอาหารไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ฮอร์โมนเปลี่ยน ระบบการทำงานของร่างกายอย่างระบบย่อยอาหารก็ไวต่อการรับรู้มากขึ้นไปอีก ทำให้การต้านทานบ้างอย่างก็เปลี่ยนไป เช่น อาหารที่เคยชอบทานกลับไม่ชอบ หรือทานอาหารบ้างอย่างก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสียได้นั่นเอง

  • อาหารเป็นพิษ เกิดจากคุณแม่เผลอไปรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนไวรัส แบคทีเรียต่าง ๆ หรือไม่สะอาด ไม่สุก บวกกับระบบร่างกายที่ไวขึ้นทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ง่าย ท้องเสียได้ง่ายขึ้นด้วย

  • วิตามินบำรุงครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนอาจทานวิตามินเพื่อบำรุงครรภ์ แต่ในบางชนิดก็มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการท้องเสียตามมาได้ หากคุณแม่ต้องการทานวิตามินจริง ๆ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีที่สุด

อาการ ท้องเสีย ของคุณแม่ตั้งครรภ์

อาการท้องเสียของคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ซึ่งกลุ่มแรกจะไม่เป็นอันตราย และอีกกลุ่มที่เป็นอันตราย คุณแม่ควรพบแพทย์ทันที อาการท้องเสียทั้ง 2 กลุ่มมีดังต่อไปนี้

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย

  1. อาการท้องเสียแบบติดเชื้อ อาการในกลุ่มนี้คือ คุณแม่จะถ่ายเหลว มีอาการถ่ายเป็นน้ำ ถ่ายบ่อยกว่าปกติ ลักษณะอุจจาระจะมีมูกเลือด หรือมีฟองปนร่วมด้วย และจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว พะอืดพะอม คลื่นไส้ ในกลุ่มอาการนี้ แนะนำให้คุณแม่รีบไปพบแพทย์โดยทันที เพราะอาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ ซึ่งการรักษานั้น คุณหมอจะใช้วิธีให้ยาฆ่าเชื้อในการระงับอาการท้องเสีย

  2. อาการท้องเสียแบบไม่ติดเชื้อ อาการในกลุ่มนี้คือ ถ่ายเหลว ถ่ายบ่อย 3 – 4 ครั้งต่อวัน อาจมีอาการคลื่นไส้บ้าง แต่ไม่ถึงกับมีไข้ อาการในกลุ่มนี้จะหายได้เอง ไม่ต้องเป็นกังวล คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์

วิธีดูแลตัวเองเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย แบบไม่ติดเชื้อ

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย

  • ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น หรือดื่มเกลือแร่ เมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย เป็นการทดแทนการสูญเสียน้ำออกไป

  • รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก และเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ย่อยยาก หรือเสี่ยงให้อาการแย่ลง เช่น ของทอด อาหารรสจัด นม หรืออาหารไขมันสูง

  • ห้ามทานยาหยุดถ่ายชั่วคราวโดยเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลเสียต่อทารก และอาจจะทำให้เชื้อตกค้างอยู่ในร่างกายได้

  • พักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสียจะทำให้อ่อนเพลียมากขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นคุณแม่ควรพักผ่อนให้มากขึ้นด้วย เพื่อเป็นการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาปกติเร็วขึ้น

วิธีป้องกันการเกิดอาการท้องเสียของคุณแม่ตั้งครรภ์

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องเสีย ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถป้องกันการเกิดอาการท้องเสียได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลากหลาย

  • เลี่ยงอาหารไม่ดีต่อครรภ์ เช่น อาหารเผ็ดจัด เค็มจัด อาหารหมักดอง เป็นต้น

  • ล้างมือและภาชนะใส่อาหารให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร

  • เช็ดทำความสะอาดชักโครก ที่รองนั่ง ปุ่มกด และบริเวณต่างๆ ในการเข้าห้องน้ำอยู่เสมอ

อาการท้องเสียของคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด คุณแม่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ แค่ดูแลป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นตามคำแนะนำ รับรองไม่เกิดอาการท้องเสียแน่นอน

bottom of page