หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง ขุยๆ คืออะไร รักษาได้ไหม ?

หนึ่งในอาการที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่พบเจอบ่อยที่สุด คือ หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง หรือสะเก็ดแบบหนาๆ สีเหลือง น้ำตาล หรือขาว ติดแน่นบนหนังศีรษะลูก บางครั้งอาจลอกเป็นขุยๆ ดูแล้วน่าเป็นห่วงไม่น้อย หลายคนกลัวว่าลูกจะแพ้อาหาร แพ้แชมพู หรือเป็นโรคผิวหนังชนิดร้ายแรง แต่จริงๆ แล้วอาการนี้มักเป็นเพียง “ ต่อมไขมันอักเสบ ” หรือ Cradle Cap ซึ่งถือว่าเป็นภาวะปกติของเด็กทารกช่วงวัยแรกเกิดถึงประมาณ 6 เดือน

แม้อาการจะไม่อันตราย แต่หากดูแลผิดวิธี เช่น แกะออกแรงๆ หรือปล่อยทิ้งไว้จนเกิดการติดเชื้อ ก็อาจทำให้เกิดผิวอักเสบได้ ดังนั้น บทความนี้จะพาคุณแม่มาทำความเข้าใจตั้งแต่สาเหตุ อาการ การดูแลรักษา ป้องกัน รวมถึงสัญญาณที่ต้องพาลูกไปพบแพทย์ พร้อมมี FAQ คำถามพบบ่อย เพื่อให้คุณแม่มั่นใจมากขึ้นว่าลูกปลอดภัยแน่นอน

หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง คืออะไร

อาการ หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง คือภาวะที่เรียกว่า “ ผื่นไขมัน / ต่อมไขมันอักเสบ ” (Cradle Cap) ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวหนังและไขมันกลายเป็นสะเก็ดหนาๆ บนหนังศีรษะของเด็ก ภาวะนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ใช่เชื้อรา ไม่ใช่การแพ้สบู่หรือแชมพู และไม่ใช่อาการบ่งบอกว่าพ่อแม่ดูแลลูกน้อยไม่ดี

ลักษณะอาการของสะเก็ดเหลืองบนศีรษะลูกน้อยที่คุณแม่ควรรู้

อาการที่สังเกตได้ง่ายของผื่นไขมัน ได้แก่

• มีสะเก็ดสีเหลือง น้ำตาล หรือขาว : สะเก็ดจะเป็นลักษณะ “ ขุยเป็นแผ่น ” บางส่วนอาจเป็นมัน เหนียวเล็กน้อย

• ติดแน่นบนหนังศีรษะ : สะเก็ดมักจะเกาะแน่น ไม่สามารถแค่ใช้มือลูบก็หลุดออกไปได้

• ไม่มีอาการคันหรือเจ็บ : เด็กส่วนใหญ่ไม่รู้สึกรบกวนหรือหงุดหงิดเลยสักนิด

• บริเวณที่พบบ่อย : หนังศีรษะ หน้าผาก รอบคิ้ว หลังหู อาจลามมาที่ใบหน้าในบางราย

• ผิวลอกเป็นขุยร่วมด้วย : มักเห็นหลังสระผมหรือช่วงอากาศแห้ง

หากมีอาการคันมาก แดง หรือมีน้ำเหลือง อาจเข้าข่ายผิวหนังอักเสบแบบอื่นร่วมด้วย เช่น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) ซึ่งต้องดูแลต่างออกไป

สาเหตุของอาการที่ทำให้หัวลูกน้อยเป็นสะเก็ดเหลือง

แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หลายครอบครัวอยากรู้ว่าเกิดจากอะไร เพื่อจะได้ป้องกันและดูแลถูกต้อง ซึ่งสาเหตุโดยทางการแพทย์อาจจะยังไม่ชี้ชัด แต่หลักๆ ที่มีการสมมติฐานกันขึ้นมามีดังนี้

1. ฮอร์โมนจากแม่ยังคงอยู่ในร่างกายลูก : ฮอร์โมนที่กระตุ้นต่อมน้ำมันจากแม่ส่งผ่านสู่ลูกในครรภ์ และยังคงอยู่ในร่างกายลูกอีกหลายสัปดาห์หลังคลอด ทำให้เกิดไขมันสะสมบริเวณหนังศีรษะ

2. หนังศีรษะแห้งหรือผิวขาดความชุ่มชื้น : ผิวเด็กยังบอบบางและสูญเสียความชุ่มชื้นง่าย หากอากาศเย็นมาก อาบน้ำอุ่นนาน หรือสระผมบ่อยเกินไป จะทำให้เกิดการอุดตันและสะสมของเซลล์ผิว

3. ยีสต์บนผิวหนังชนิด Malassezia : เด็กบางคนมีการเจริญมากขึ้นของยีสต์ตามธรรมชาติชนิดนี้ ทำให้เกิดไขมันและขุยสะเก็ดเพิ่มขึ้น

4. กรรมพันธุ์ : หากพ่อแม่เคยมีปัญหาผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังบางชนิด อาจทำให้ลูกมีโอกาสเป็นผื่นไขมัน หรือต่อมไขมันอักเสบได้มากขึ้น

วิธีดูแลรักษาสะเก็ดไขเหลืองที่หัวลูกน้อยแบบถูกวิธีสำหรับคุณพ่อคุณแม่

ข่าวดีคือ รักษาไม่ยาก และส่วนใหญ่หายเองได้ แต่การดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้หายเร็วขึ้น ลดโอกาสอักเสบและติดเชื้อได้อย่างมาก

1. ใช้น้ำมันมะพร้าว : นวดให้ทั่วหนังศีรษะ และทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้สะเก็ดนิ่มลง แล้วจึงล้างออกได้ แต่วิธีนี้อาจเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอุดตันมากยิ่งขึ้น รวมถึงอาจทำให้เกิดปัญหาผดร้อนตามมาได้อีกด้วย

2. ใช้ BABY OIL-MILK STET1 WASH AND SHAMPOO : ออยล์มิ้ลค์อาบสระเรกาก้าร์ สูตรนี้มีออยล์ธรรมชาติสูงถึง 86% ทั้ง Coconut Oil & Jojoba Oil ซึ่งสามารถฟื้นฟูผิวหนังศีรษะของลูกน้อยให้กลับมาเนียน แข็งแรง สุขภาพดีได้ ที่สำคัญสูตรนี้ไม่มีสเตียรอยด์ ไม่มียา ไม่มีสารอันตราย ผ่านการทดสอบจากสถาบันแพทย์ผิวหนังชั้นประเทศฝรั่งเศส รับรอง อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิวและดวงตา เพียงแค่ใช้ออยล์สูตรนี้สะผมให้ลูกน้อยเป็นประจำ ตัวออยล์จะเข้าไปฟื้นฟู สมานผิว ให้ชั้นผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น และทำให้ไข หรือสะเก็ดเหลืองที่หัวลูกน้อยนิ่มลงจนหลุดออกไปเอง โดยไม่ทิ้งแผลไว้เลย

3. ห้ามคุณพ่อคุณแม่แคะ แกะ หรือเกาให้ไข หรือสะเก็ดหลุดออกมาด้วยความรุนแรง : เพราะจะทำให้ผิวถลอก ผิวอักเสบมากยิ่งขึ้น และเสี่ยงติดเชื้อได้

อาการแบบไหนที่ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที

แม้อาการ “ หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง ” จะไม่อันตราย แต่บางครั้งอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องรีบรักษา เช่น

• ผื่นแดงลามเร็ว

• มีน้ำเหลืองหรือมีหนอง มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ บวม

• ลูกเกาหรือร้องกวนมากผิดปกติ

• มีไข้ร่วมด้วย

• สะเก็ดลามไปทั่วตัว

• เป็นนานเกิน 1–2 เดือนและไม่ดีขึ้นแม้ดูแลถูกวิธี

FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “ หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง ”

Q : หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลืองอันตรายไหม? A : ไม่อันตรายค่ะ เป็นภาวะปกติของทารก และไม่ส่งผลต่อพัฒนาการใดๆ

Q : หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง เกิดจากอะไร ทำไมถึงเป็น? A : เกิดจากต่อมน้ำมันทำงานมากเกินไป รวมกับยีสต์บนผิวหนัง ทำให้เกิดคราบไขสะสมเป็นสะเก็ด Q : หัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง แกะออกได้ไหม? A : ไม่ได้ และไม่ควรแกะด้วยมือหรือของแข็งๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวอักเสบได้

Q : ใช้แชมพูผู้ใหญ่ได้ไหม? A : ไม่ได้ แนะนำให้เป็นแชมพูลดไขที่หนังศีรษะ อย่างออยล์มิ้ลค์เรกาก้าร์ ที่มีออยล์ธรรมชาติ ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลไขเหลืองที่หัวลูกน้อย Q : เมื่อลูกน้อยเป็นสะเก็ดเหลืองที่หัวแล้ว จะมีโอกาสเป็นซ้ำได้ไหม? A : อาจเป็นซ้ำได้จนกว่าลูกจะอายุ 6 เดือนขึ้นไป เมื่อระบบผิวหนังสมบูรณ์ก็จะหายเอง

Q : เมื่อลูกน้อยเป็นสะเก็ดเหลืองที่หัวแล้ว จะมีโอกาสหายถาวรไหม? A : ส่วนใหญ่หายภายใน 1–3 เดือน และหากคุณพ่อคุณแม่ดูแลถูกวิธีก็มักจะไม่ทิ้งรอยแผลไว้

สรุป : อาการหัวลูกเป็นสะเก็ดเหลือง ไม่อันตรายและรักษาหายได้แน่นอน ซึ่งอาการนี้อาจเกิดจากฮอร์โมนแม่ ยีสต์บนผิว และผิวหนังที่ผลัดตัวไม่สมบูรณ์ ส่วนใหญ่หายเองภายในไม่กี่สัปดาห์ รักษาได้ด้วยการใช้น้ำมัน เบบี้ออยล์ หรือออยล์มิ้ลค์อาบสระลดไขที่หัวลูกของเรกาก้าร์ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลค่ะ ดูแลตามวิธีนี้ ลูกจะหายและผิวกลับมานุ่ม เนียนสวย สุขภาพดีแน่นอน

“เพราะเรื่องของลูก ไม่ใช่อะไรก็ได้”

ปรึกษาปัญหาผิวลูก หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์

คลิก Inbox : http://m.me/regagarth

Line : @regagar ( https://lin.ee/LLGNbL8 )