NIFTY Test คืออะไร จำเป็นต่อคุณแม่ท้องและ ทารกในครรภ์ หรือไม่
- regagar
- 5 days ago
- 1 min read
การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุข ความตื่นเต้น และในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความกังวลใจของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทุกคนเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแล “ ทารกในครรภ์ ” ให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งนอกจากการฝากครรภ์และดูแลสุขภาพประจำวันแล้ว การตรวจสุขภาพทารกก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี

ในปัจจุบันมีวิธีการตรวจสุขภาพของทารกหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ NIFTY Test หรือการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกด้วยการเจาะเลือดแม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและให้ผลแม่นยำสูง จนเป็นที่นิยมในคุณแม่ตั้งครรภ์ยุคใหม่
ทำไมสุขภาพ “ ทารกในครรภ์ ” ถึงสำคัญ
ตลอดระยะเวลา 9 เดือนของการตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์ จะค่อย ๆ เจริญเติบโตตั้งแต่เซลล์เล็ก ๆ จนกลายเป็นมนุษย์ตัวน้อย การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในกระบวนการนี้อาจส่งผลต่อสุขภาพของทารกได้ ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของโครโมโซมหรือโรคทางพันธุกรรมบางชนิด
ดังนั้นการมีเครื่องมือที่สามารถช่วยคัดกรองความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ย่อมช่วยให้คุณแม่และครอบครัวเตรียมตัวและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
NIFTY Test คืออะไร
NIFTY Test (Non-Invasive Fetal Trisomy Test) คือการตรวจคัดกรองพันธุกรรมของ ทารกในครรภ์ โดยการเจาะเลือดคุณแม่ ซึ่งในเลือดของแม่จะมี DNA ของทารกที่เรียกว่า cell-free fetal DNA ลอยอยู่ การนำ DNA นี้มาวิเคราะห์จะทำให้ทราบได้ว่าทารกมีความเสี่ยงต่อความผิดปกติของโครโมโซมหรือไม่

จุดเด่นของการตรวจ NIFTY คือ “ไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำ” และไม่กระทบกับสุขภาพของทารกในครรภ์ ทำให้เป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าการตรวจวินิจฉัยบางประเภท เช่น การเจาะน้ำคร่ำหรือการตัดชิ้นเนื้อจากรก และมีความแม่นยำสูงในการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซม เช่น ดาวน์ซินโดรม เป็นต้น
NIFTY Test ตรวจอะไรได้บ้าง
การตรวจ NIFTY Test สามารถตรวจคัดกรองความผิดปกติได้หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ทารกในครรภ์ ได้แก่

ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome – Trisomy 21) : เกิดจากการที่ทารกมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ทำให้เกิดปัญหาด้านสติปัญญาและพัฒนาการ
เอ็ดเวิร์ดซินโดรม (Edwards Syndrome – Trisomy 18) : ทำให้ทารกในครรภ์มีโอกาสเสียชีวิตสูงทั้งในช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด
พาทัวซินโดรม (Patau Syndrome – Trisomy 13) : เป็นภาวะที่ทารกมีความผิดปกติรุนแรง ส่งผลต่อโครงสร้างร่างกายและสมอง
ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ เช่น Turner Syndrome, Klinefelter Syndrome
เพศของทารกในครรภ์ (หากคุณแม่ต้องการทราบ)
ทั้งนี้แพ็กเกจการตรวจอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละโรงพยาบาลระบุ บางแห่งอาจมีการตรวจเพิ่มเติมสำหรับความผิดปกติของโครโมโซมอื่น ๆ ด้วย
ใครควรตรวจ NIFTY Test? จำเป็นต่อคุณแม่และ ทารกในครรภ์ หรือไม่ ?
แม้ว่า NIFTY Test ไม่จำเป็นสำหรับคุณแม่ทุกคน แต่เหมาะสำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น
คุณแม่อายุ 35 ปีขึ้นไป
เคยมีลูกที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
มีผลตรวจคัดกรองเบื้องต้น (เช่น NT, Double marker, Quadruple test) อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงสูง
มีประวัติครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับโรคทางพันธุกรรม
คุณแม่ที่ต้องการความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพของทารกในครรภ์

สำหรับคุณแม่ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง อาจเลือกใช้วิธีตรวจคัดกรองมาตรฐานทั่วไปก็เพียงพอ แต่หากมีความกังวลใจ การสามารถใช้ NIFTY Test เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดความเครียด และทำให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างสบายใจมากขึ้นได้เช่นกัน
ข้อดีและข้อจำกัดของ NIFTY Test
ข้อดีของ NIFTY Test
ความแม่นยำสูง โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม (มากกว่า 99%)
ปลอดภัย ไม่เสี่ยงแท้ง เพราะใช้แค่การเจาะเลือดคุณแม่
ตรวจได้เร็ว ตั้งแต่ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
ลดความกังวลของคุณแม่ ช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจว่าจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น การเจาะน้ำคร่ำ หรือไม่

ข้อจำกัดของ NIFTY Test
เป็นเพียงการคัดกรอง (Screening) ไม่ใช่การวินิจฉัย 100%
หากผลเสี่ยงสูง ควรยืนยันด้วยการตรวจที่ละเอียดกว่า เช่น เจาะน้ำคร่ำ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง (ประมาณ 10,000–30,000 บาท ขึ้นอยู่กับคลินิกและแพ็กเกจ)
เปรียบเทียบ NIFTY Test กับการตรวจอื่นๆ
NT Scan: ตรวจความหนาของต้นคอทารกในครรภ์ แต่ความแม่นยำไม่สูงเท่า NIFTY
Double/Quadruple Marker Test: ตรวจเลือดแม่เหมือนกัน แต่ความแม่นยำต่ำกว่า NIFTY
การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis): เป็นการวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุด แต่มีความเสี่ยงต่อการแท้ง
ดังนั้น NIFTY จึงเป็น “ จุดกึ่งกลาง ” ระหว่างความปลอดภัยและความแม่นยำ
สรุป NIFTY Test คือการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของทารกในครรภ์ที่ปลอดภัยและแม่นยำสูง เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีความเสี่ยงสูง หรือคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการความมั่นใจเกี่ยวกับสุขภาพลูกน้อย แม้ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณแม่อุ่นใจและสามารถเตรียมความพร้อมได้ดียิ่งขึ้น
หากคุณแม่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของ ทารกในครรภ์ และการดูแลครรภ์อย่างถูกต้อง สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของเรา หรือสอบถามแพทย์ที่คลินิกใกล้บ้าน เพื่อความมั่นใจ และอุ่นใจตลอด 9 เดือนแห่งการรอคอย
เพราะสุขภาพของ ทารกในครรภ์ คือสิ่งที่คุณแม่ทุกคนห่วงใยที่สุด
Comments