ปีใหม่กับ สุขภาพจิตคนท้อง ความกดดันจากครอบครัว และวิธีดูแลฮีลใจคุณแม่ท้อง
- regagar
- 1 day ago
- 2 min read
ช่วงปีใหม่ถือเป็นเทศกาลแห่งความสุข การรวมตัวของครอบครัว และการเฉลิมฉลองที่หลายคนรอคอย แต่สำหรับ “ คุณแม่ตั้งครรภ์ ” หลายๆ บ้านแล้ว ช่วงเวลานี้ก็อาจกลายเป็นช่วงที่เต็มไปด้วยความกดดัน ความคาดหวัง และกิจกรรมที่อาจส่งผลต่อ “ สุขภาพจิตคนท้อง ” มากกว่าที่ใครจะคิด โดยเฉพาะเมื่อต้องพบปะญาติหลายครอบครัว หรือเจอคำถามที่ทำให้เครียดโดยไม่รู้ตัว

บทความนี้จะพาคุณแม่ตั้งครรภ์ รวมถึงคุณพ่อ ครอบครัว มาทำความเข้าใจว่า “ ความกดดันที่เกิดขึ้นช่วงปีใหม่ ” มาจากอะไร ส่งผลอย่างไรต่อจิตใจและร่างกาย และจะมีวิธีดูแลความรู้สึกอย่างไรให้ปลอดภัยทั้งแม่และลูกน้อยในครรภ์กันค่ะ
ทำไมคนท้องถึงเครียดง่ายช่วงปีใหม่
ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายคุณแม่ท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทั้ง เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์ ความไวต่อความรู้สึก และความเหนื่อยล้าทางจิตใจอยู่แล้ว เมื่อรวมกับความวุ่นวายของช่วงปีใหม่ คุณแม่จึงอาจรู้สึกอ่อนไหวกว่าปกติได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เช่น เสียงดัง คนเยอะ หรือแค่คำถามเดิม ๆ จากญาติ ก็อาจทำให้เกิดความเครียดได้โดยไม่ตั้งใจ

และเมื่อความเครียดสะสมมากเกินไปก็จะกระทบต่อสุขภาพจิตคนท้องทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น
ระบบการนอนผิดปกติ
ปวดหัว
ใจเต้นเร็ว
กระทบต่อการย่อยอาหาร
ฮอร์โมนความเครียดส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์
ดังนั้นไม่ใช่เรื่องผิดหรือเรื่องอ่อนไหวเกินเหตุที่คุณแม่ท้องจะรู้สึกเครียด แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริงและควรดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ
ความกดดันที่ส่งผลต่อ สุขภาพจิตคนท้อง จากครอบครัวและญาติช่วงปีใหม่ มาจากอะไร
คำถามที่เหมือนง่าย แต่ทำให้เครียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ : คุณแม่ตั้งครรภ์แทบทุกคนต้องเคยเจอคำถามเหล่านี้
“กำหนดคลอดเมื่อไหร่?”
“ลูกผู้ชายหรือผู้หญิง?”
“ต้องผ่าคลอดเหรอ? ทำไมไม่คลอดธรรมชาติ?”
“น้ำหนักขึ้นเยอะไปไหม?”
“ตั้งใจจะมีคนที่สองไหม?”
“หลังคลอดจะเลี้ยงเองหรือให้แม่ช่วย?”
คำถามเหล่านี้ไม่ได้เจตนาร้าย แต่เป็นคำถามที่ถามซ้ำ ๆ จากหลายคน และมีความคาดหวังแอบแฝง ซึ่งทำให้คุณแม่ท้องรู้สึกว่าต้องตอบให้ถูกใจคนอื่น จนเกิดความกดดันโดยไม่รู้ตัว
ความคาดหวังจากญาติผู้ใหญ่ : บ่อยครั้งญาติอาจอยากเห็นหน้า อยากให้ร่วมโต๊ะ อยากให้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งวัน ทำให้คุณแม่ท้องต้องเดินทางหลายที่ นอนน้อย อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ทำกิจกรรมที่ร่างกายไม่พร้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของคนท้องโดยตรง

สังคมที่คนเยอะ เสียงดัง เหนื่อยง่าย : งานเลี้ยงปีใหม่เต็มไปด้วยเสียงดัง กลิ่นอาหาร ควันที่อาจกระตุ้นอาการแพ้ท้อง ผู้คนจำนวนมาก และสถานที่แคบ ๆ อาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณแม่ท้องเครียดได้มากกว่าคนทั่วไป
ความเหนื่อยล้าที่ไม่มีใครเห็น : คุณแม่อาจต้องยืนถ่ายรูปนาน ถูกขอให้ลองอาหาร เดินไปหลายโต๊ะ นั่งนานจนปวดหลัง แต่ด้วยความเกรงใจ จึงไม่กล้าปฏิเสธ และยิ่งทำให้เกิดภาระทางใจมากขึ้นทั้งที่ไม่ได้แสดงออก
ผลของความเครียดต่อ “ สุขภาพจิตคนท้อง ” และผลต่อทารกในครรภ์
ความเครียดไม่ได้กระทบแค่ความรู้สึก แต่มีผลต่อร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์และพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ด้วย
ผลต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
นอนไม่หลับ
เหนื่อยง่าย
หายใจติดขัด
ปวดหัว
ความดันขึ้น
อารมณ์แปรปรวน
น้ำหนักขึ้นผิดปกติ
เบื่ออาหาร

ผลต่อทารกในครรภ์
ฮอร์โมนความเครียดจากแม่อาจส่งผลต่อระบบประสาทของลูก
ทารกอาจดิ้นแรงขึ้นเมื่อแม่เครียด
ในบางรายอาจส่งผลให้แม่มีอาการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด
ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตคนท้องไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่คือการดูแลลูกน้อยในท้องไปพร้อมๆ กันด้วยนั่นเอง
วิธีดูแลสุขภาพจิตคนท้องช่วงปีใหม่
คุณแม่ปฏิเสธได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิด : เป็นการตั้งขอบเขตอย่างสุภาพ ตัวอย่างคำพูดที่สุภาพและใช้ได้ผลมาก
“ คุณหมอให้พักเยอะ ๆ ช่วงนี้ ขออยู่แค่ช่วงบ่ายนะคะ ”
“ ขอไม่คุยเรื่องน้ำหนัก/การคลอดนะคะ หมอให้โฟกัสเรื่องความเครียดค่ะ ”
“ วันนี้ร่างกายอ่อนเพลีย ขอไปพักก่อนนะคะ ”
การสื่อสารอย่างชัดเจนช่วยลดความอึดอัดใจ และทำให้คนรอบข้างเข้าใจคุณแม่มากขึ้น
ให้คู่สมรสช่วยเป็นเกราะป้องกัน : คุณพ่อสามารถช่วยคุณแม่ท้องได้มาก เช่น
ตอบคำถามแทนคุณแม่ท้อง
ช่วยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เพื่อลดความกดดันไปที่คุณแม่
ออกตัวพาคุณแม่ท้องออกไปพัก เมื่อเห็นแม่เหนื่อย
ช่วยบอกญาติว่า คุณแม่จำเป็นต้องพัก

เตรียมคำตอบสั้น ๆ ไว้ล่วงหน้า : การเตรียมใจและเตรียมคำตอบจะช่วยลดความเครียดได้มาก เช่น
“ เดี๋ยวคุณหมอตรวจแล้วจะอัปเดตนะคะ ”
“ ยังไม่แน่ใจค่ะ ขอรอให้หมอยืนยันก่อนนะคะ ”
“ ตอนนี้ขอโฟกัสสุขภาพกับการพักผ่อนก่อนค่ะ ”
แบ่งเวลาพัก ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ใจสงบ : คุณแม่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในงานตลอดเวลา สามารถพักเป็นรอบ ๆ ได้ และทำกิจกรรมง่ายๆ ที่ทำให้ใจสงบลง ผ่อนคลายได้มากขึ้น เช่น
เดินออกไปสูดอากาศ
ดื่มน้ำอุ่น
ฟังเพลงเบา ๆ
ทำสมาธิสั้น ๆ
นั่งยืดหลัง
อาบน้ำอุ่น
เขียนไดอารี่ระบายความรู้สึก
สิ่งเล็ก ๆ แบบนี้ช่วยลดความเครียดสะสมได้จริง ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ และฟื้นฟูสุขภาพจิตคนท้องได้ดีมาก
เคล็ดลับสำหรับครอบครัว และญาติเมื่อพบคุณแม่ตั้งครรภ์
หากครอบครัวเข้าใจ สิ่งนี้ช่วยแม่ท้องได้มาก : หลีกเลี่ยงคำถามที่กดดัน , ให้แม่ท้องเป็นคนกำหนดเวลาเอง , ยื่นมือช่วย เช่น หาที่นั่ง พาไปพัก , เคารพการตัดสินใจของคุณแม่ , ไม่วิจารณ์รูปร่าง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเครียดให้คุณแม่ท้องในช่วงปีใหม่ได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
FAQ : ปีใหม่กับสุขภาพจิตคนท้อง
Q : คนท้องเครียดช่วงปีใหม่ อันตรายไหม ?
A : ความเครียดเป็นเรื่องปกติของคนท้อง แต่ถ้าเครียดสะสมมากเกินไปอาจทำให้ นอนไม่หลับ ปวดหัว ความดันขึ้น เจ็บท้อง ในบางรายอาจส่งผลต่อพัฒนาการทารกได้ ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นความเครียดค่ะ
Q : ถ้าญาติถามเยอะจนรู้สึกกดดัน ควรตอบยังไงดี ?
A : คุณแม่สามารถตอบแบบสุภาพแต่ชัดเจน เช่น “ ตอนนี้ขอโฟกัสสุขภาพก่อนค่ะ ” , “ ยังรอผลหมอยืนยันค่ะ ” เป็นต้น เตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้ไม่เครียดค่ะ
Q : คนท้องควรไปงานเลี้ยงปีใหม่ไหม ?
A : ไปได้ค่ะ แต่ควรเลือกงานที่ไม่แออัด ไม่ต้องอยู่ดึก มีมุมพัก มีคนคอยช่วยดูแล และหากรู้สึกไม่พร้อม สามารถปฏิเสธได้ ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยค่ะ
Q : ถ้าคุณแม่ท้องรู้สึกเครียดจนร้องไห้ ถือว่าผิดปกติไหม ?
A : ไม่ผิดปกติค่ะ คนท้องเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย แต่ถ้าเครียดจนร้องไห้บ่อย ๆ หรือรู้สึกหดหู่มากกว่า 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาคุณหมอเพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะซึมเศร้าขณะตั้งครรภ์ค่ะ
Q : อาการเครียดช่วงปีใหม่ส่งผลกับลูกจริงไหม?
A : ความเครียดระยะสั้นไม่ส่งผลร้ายแรง แต่ถ้าคุณแม่เครียดเรื้อรัง ฮอร์โมนความเครียดอาจส่งผลต่อระบบประสาทของลูกได้ ดังนั้นควรพักให้พอและดูแลใจตัวเองดีที่สุดค่ะ
Q : มีวิธีผ่อนคลายง่าย ๆ สำหรับคนท้องก่อนและหลังงานปีใหม่ไหม?
A : มีค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ฟังเพลงเบา ๆ , สูดหายใจลึก ๆ , อาบน้ำอุ่น , เดินช้า ๆ , นั่งในที่เงียบสัก 5 นาที , เขียนความรู้สึกลงสมุด เป็นต้นค่ะ วิธีเล็ก ๆ เหล่านี้ ช่วยได้มากกว่าที่คิดนะคะ
ปีใหม่ควรเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับพลังบวก ไม่ใช่ความกดดัน การเข้าใจสภาพร่างกายและจิตใจของตัวเอง คือกุญแจสำคัญของการดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ ขอให้ปีใหม่นี้เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่รู้สึกสบายใจ อบอุ่น และปลอดภัยที่สุดนะคะ