top of page

ความแตกต่างของอาการ และการดูแลแต่ละช่วงไตรมาส ของ การตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง

เข้าใจ “ การตั้งครรภ์ ” ทั้ง 3 ช่วง พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเองให้แม่แข็งแรง ลูกน้อยเติบโตสมบูรณ์

การตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ คือช่วงเวลาที่ทั้งร่างกายและจิตใจของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในชีวิต ตั้งแต่วันที่รู้ว่ามีชีวิตน้อย ๆ กำลังเติบโตในครรภ์ ไปจนถึงวันที่ได้อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมกอด ทุกช่วงเวลาล้วนมีความพิเศษ และมีความแตกต่างที่คุณแม่ควรเข้าใจ เพื่อจะได้ดูแลตัวเองได้ถูกวิธีในแต่ละไตรมาส


ทำความรู้จัก “ การตั้งครรภ์ ” ทั้ง 3 ไตรมาส

คำว่า “ ตั้งครรภ์ ” โดยทั่วไป หมายถึงช่วงเวลา 9 เดือน หรือประมาณ 40 สัปดาห์ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง หรือที่เราเรียกว่า “ ไตรมาส (Trimester) ” ซึ่งแต่ละไตรมาสจะมีลักษณะเฉพาะ ทั้งด้านอาการ พัฒนาการของทารก และการดูแลที่แตกต่างกันไป


การตั้งครรภ์ ไตรมาสที่ 1 (1-3เดือน)

ไตรมาสที่ 1 ( เดือนที่ 1–3 ) : จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตใหม่

อาการของคุณแม่ในช่วงไตรมาสแรก :  เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะฮอร์โมน เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำให้คุณแม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ม่าจะเป็น

  • คลื่นไส้ อาเจียน หรือแพ้ท้อง โดยเฉพาะตอนเช้า

  • เหนื่อยง่าย ง่วงบ่อย

  • เต้านมคัด เจ็บ หรือขยายใหญ่ขึ้น

  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย

  • ปัสสาวะบ่อย

  • อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยเล็กน้อยช่วงฝังตัวอ่อน

แม้อาการเหล่านี้จะดูไม่สบายตัว แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดี ว่าฮอร์โมนการตั้งครรภ์กำลังทำงานตามปกตินั่นเอง


พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ในไตรมาสแรก :  ในช่วงไตรมาสแรก ลูกน้อยของคุณแม่จะเริ่มพัฒนาอย่างรวดเร็ว

  • สัปดาห์ที่ 4–6 หัวใจเริ่มเต้นแล้ว

  • สมอง ระบบประสาท แขน ขา และดวงตาเริ่มก่อตัว

  • อวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต และปอด เริ่มทำงานขั้นต้น


การดูแลตัวเองของคุณแม่ท้องในช่วงไตรมาสแรก :

  • พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด

  • รับประทานอาหารที่มี กรดโฟลิก (Folic Acid) เพื่อช่วยพัฒนาสมองและระบบประสาทของลูก

  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันอาการท้องผูก

  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีน แอลกอฮอล์ บุหรี่ และอาหารดิบ

  • เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจครรภ์ครั้งแรกและตรวจเลือด


ในช่วงไตรมาสนี้คุณแม่อาจยังไม่เห็นหน้าท้องชัด แต่ภายในร่างกายกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์อยู่นั่นเอง



การตั้งครรภ์ ไตรมาสที่ 2 (4-6 เดือน)

ไตรมาสที่ 2 ( เดือนที่ 4–6 ) : ช่วงเวลาที่แม่เริ่มสบายขึ้น

อาการของคุณแม่ในช่วงไตรมาสที่ 2 :  อาการแพ้ท้องจะเริ่มลดลง ร่างกายคุณแม่จะแข็งแรงขึ้น คุณแม่ท้องหลายๆคนในช่วงไตรมาสนี้จะเริ่มรู้สึกถึง “ ลูกดิ้น ” ประมาณสัปดาห์ที่ 18–20 เป็นช่วงที่คุณแม่จะเริ่มมีความสุขกับการตั้งครรภ์มากขึ้น

  • พลังงานกลับมา เริ่มอยากอาหารมากขึ้น

  • น้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มขึ้น

  • ผิวเริ่มมีรอยแตกลายบริเวณหน้าท้อง

  • เหงือกอาจบวม หรือมีเลือดออกได้ง่าย

  • มีตกขาวเพิ่มขึ้น


พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ในไตรมาสที่ 2 :

  • ลูกเริ่มได้ยินเสียงภายนอก และอาจตอบสนองต่อเสียงแม่ได้

  • ระบบประสาทและกล้ามเนื้อเริ่มทำงานดีขึ้น

  • ใบหน้า นิ้วมือ นิ้วเท้า เริ่มชัดเจน

  • ลูกมีขนาดประมาณ 25–30 เซนติเมตร และเริ่มเคลื่อนไหวได้มาก


การดูแลตัวเองของคุณแม่ท้องในช่วงไตรมาสที่ 2 :

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้น โปรตีน แคลเซียม และธาตุเหล็ก

  • ทาครีมหรือน้ำมันบำรุงผิว เพื่อลดรอยแตกลาย

  • ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะคนท้อง

  • เข้ารับการตรวจครรภ์ทุก 4–6 สัปดาห์

  • ตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูเพศและสุขภาพลูกในครรภ์


ช่วงไตรมาสนี้เป็นเวลาทองของคุณแม่ ในการเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม สำหรับช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้



การตั้งครรภ์ ไตรมาส 3 (7-9 เดือน)

ไตรมาสที่ 3 ( เดือนที่ 7–9 ) : ช่วงเตรียมตัวคลอด

อาการของคุณแม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 : มดลูกขยายตัวเต็มที่ ทำให้คุณแม่รู้สึกแน่นท้อง ปวดหลัง และนอนไม่ค่อยสบาย

  • ปัสสาวะบ่อย และหายใจลำบากจากแรงกดของมดลูก

  • ขาบวม เท้าบวม โดยเฉพาะช่วงเย็น

  • มีอาการปวดหน่วงหรือเจ็บเตือนคลอด

  • น้ำนมอาจเริ่มซึมออกมาเล็กน้อย


พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ในไตรมาสที่ 3 :

  • ลูกกลับหัวเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด

  • ระบบปอด สมอง และประสาทพัฒนาเกือบสมบูรณ์

  • น้ำหนักตัวลูกเพิ่มขึ้นรวดเร็ว (โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.5–3.5 กิโลกรัมเมื่อครบกำหนด )

  • สามารถลืมตาและตอบสนองต่อแสงหรือเสียงได้


การดูแลตัวเองของคุณแม่ท้องในช่วงไตรมาสที่ 3 :

  • หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องถี่ มีมูกเลือด หรือน้ำเดิน

  • เตรียมกระเป๋าไปโรงพยาบาลล่วงหน้า

  • งดการเดินทางไกล

  • พักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารอ่อนย่อยง่าย

  • เตรียมร่างกายและจิตใจสำหรับการคลอด รวมถึงการให้นมลูก


ในช่วงนี้ การได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะคุณแม่อาจรู้สึกเหนื่อยง่ายและวิตกกังวลใกล้วันคลอด


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


FAQ  คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความแตกต่างแต่ละไตรมาสของคุณแม่ตั้งครรภ์


Q : ไตรมาสที่ 1 มีอาการอะไรบ้างที่พบบ่อย ?

A : ในช่วงไตรมาสแรก มักพบอาการแพ้ท้อง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม ปัสสาวะบ่อย รวมถึงอารมณ์แปรปรวน เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วค่ะ


Q : คุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างไรในไตรมาสแรก ?

A : ควรพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารย่อยง่าย เลี่ยงอาหารและกลิ่นที่กระตุ้นอาการแพ้ท้อง รับกรดโฟลิกเสริม และพบแพทย์ตามนัดตรวจครรภ์ครั้งแรก เพื่อประเมินสุขภาพแม่และทารกค่ะ


Q : ไตรมาสที่ 2 อาการเปลี่ยนไปอย่างไร ?

A : อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่มักดีขึ้น คุณแม่จะเริ่มรู้สึกสบายตัวขึ้น แต่จะมีอาการอื่น เช่น เวียนหัว ท้องผูก ผิวคล้ำขึ้น มีลายแตก และเริ่มรู้สึก “ลูกดิ้น” ในช่วงนี้ค่ะ


Q : การดูแลตัวเองในไตรมาสที่ 2 ต้องเน้นอะไร ?

A : ควรเน้นอาหารที่มีธาตุเหล็ก แคลเซียม และโปรตีน เพื่อช่วยการเจริญเติบโตของทารก ดื่มน้ำมาก ๆ ป้องกันท้องผูก และออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดิน โยคะคนท้อง รวมถึงเริ่มเตรียมตัวเรื่องการคลอดค่ะ


Q : ไตรมาสที่ 3 มีอาการอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ?

A : คุณแม่อาจปวดหลัง บวมเท้า หายใจลำบาก นอนไม่หลับ และปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากมดลูกขยายใหญ่ นอกจากนี้ต้องระวังอาการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด น้ำเดิน หรือความดันโลหิตสูงค่ะ


Q : ไตรมาสที่ 3 ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

A : ควรพักผ่อนมากขึ้น หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือนั่งนานเกินไป กินอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้ง เตรียมกระเป๋าไปคลอด ฝึกการหายใจสำหรับคลอด และไปตรวจครรภ์ถี่ขึ้นตามคำแนะนำแพทย์ค่ะ


Q : อาการแบบไหนที่ควรรีบพบแพทย์ทันที ไม่ว่าจะอยู่ไตรมาสไหน?

A : หากมีเลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้องรุนแรง ไข้สูง บวมน้ำผิดปกติ น้ำเดิน ทารกดิ้นน้อยลง หรือมีอาการเวียนหัว หน้ามืดจนล้ม ควรรีบไปโรงพยาบาลทันทีค่ะ


Q : อาการทางอารมณ์เปลี่ยนแปลงตามไตรมาสหรือไม่ ?

A : ใช่ค่ะ ไตรมาสแรกมักอารมณ์ขึ้นลงง่ายเพราะฮอร์โมน ไตรมาสสองค่อนข้างมั่นคงขึ้น และไตรมาสสามอาจกลับมาวิตกกังวลเรื่องการคลอดและการดูแลลูกหลังคลอด การได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญมากค่ะ


Q : พ่อบ้าน / คุณพ่อสามารถช่วยดูแลคุณแม่ท้องอย่างไรในแต่ละไตรมาส ?

A : ช่วยจัดการงานบ้าน พาไปพบแพทย์ ดูแลเรื่องอาหาร ช่วยนวดหลัง หรืออยู่เป็นเพื่อนเวลาคุณแม่มีความกังวล รวมถึงร่วมเตรียมตัวเรื่องการคลอดและการต้อนรับลูกค่ะ


Q : ทำไมการตรวจครรภ์ทุกไตรมาสจึงสำคัญ ?

A : เพื่อประเมินสุขภาพแม่และพัฒนาการของทารก รวมถึงตรวจคัดกรองความเสี่ยง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การเจริญเติบโตผิดปกติ และภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งหากเจอเร็วจะรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ


Q : การออกกำลังกายช่วงตั้งครรภ์ปลอดภัยหรือไม่ ?

A : ปลอดภัยค่ะ ถ้าเลือกกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะคนท้อง และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ


Q : ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนถึงกำหนดคลอด ?

A : เตรียมกระเป๋าโรงพยาบาลให้พร้อม ปรึกษาแพทย์เรื่องแผนคลอด ทำความเข้าใจสัญญาณการคลอด และพักผ่อนให้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับวันสำคัญค่ะ


Q : ลูกน้อยพัฒนาตัวเองอย่างไรในแต่ละไตรมาส ?

A : ไตรมาส 1: อวัยวะสำคัญเริ่มก่อตัว หัวใจเต้นแล้ว

ไตรมาส 2: ลูกเริ่มได้ยินเสียง เคลื่อนไหวมากขึ้น

ไตรมาส 3: สมองและปอดพัฒนาเกือบสมบูรณ์ และลูกกลับหัวเตรียมคลอด



สรุปการตั้งครรภ์ทั้ง 3 ไตรมาส คือการเดินทางของแม่และลูกน้อย ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปทุกเดือน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การดูแลตัวเองให้เหมาะกับช่วงเวลา  เพราะทุกการดูแลในวันนี้ คือรากฐานของสุขภาพลูกน้อยในวันหน้า เมื่อแม่แข็งแรง ลูกก็เติบโตอย่างแข็งแรง สุขภาพดี มีความสุขนั่นเอง








Comments


bottom of page